This article will take approximately 1 minute to read. Don't have the time right now? No worries. You can email the ad-free version of the article to yourself and read it later!
คุณกำลังคิดเรื่องเกษียณในประเทศไทยเหรอ? เยี่ยมเลย! ไม่ว่าจะเป็นอากาศอุ่นๆ ชีวิตที่ประหยัด หรือการต้อนรับที่อบอุ่นของคนไทย ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตสำหรับผู้เกษียณจากทั่วโลก แล้วจริงๆ ฉันเข้าใจคุณดี ใครบ้างที่ไม่อยากเปลี่ยนจากการทำงานหนักในแต่ละวันมาสู่วันสบายๆ บนชายหาด อาหารอร่อยราคาถูก และไลฟ์สไตล์ที่ชิลๆ กันล่ะ?
ฉันใช้เวลามาหลายปีในการค้นคว้าและประสบการณ์ชีวิตที่นี่ และฉันจะนำทางคุณผ่านทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเกษียณในประเทศไทย—ตั้งแต่วีซ่าไปจนถึงการดูแลสุขภาพ จากค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพไปจนถึงการผูกมิตร มาเริ่มกันเลย!
ทำไมถึงเกษียณในประเทศไทย? เริ่มกันที่ทำไมประเทศไทยถึงเป็นที่ดึงดูดของผู้เกษียณกันก่อน
- ค่าครองชีพที่ประหยัด – คุณสามารถใช้ชีวิตสบายๆ ในประเทศไทยโดยใช้เงินน้อยกว่าประเทศในตะวันตกมาก คู่เกษียณสามารถมีวิถีชีวิตที่ดีในราคาเพียง $1,500–$2,500 ต่อเดือน
- ระบบสุขภาพที่ดี – โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยให้บริการทางการแพทย์ระดับโลกในราคาเพียงเสี้ยวของราคาที่สหรัฐอเมริกาหรือยุโรป
- อากาศอบอุ่นตลอดปี – ไม่มีฤดูหนาวที่หนาวเย็นอีกต่อไป!
- ชุมชนชาวต่างชาติที่ครึกครื้น – ไม่ว่าคุณจะตั้งรกรากที่ไหน คุณจะพบกับผู้เกษียณที่คิดเหมือนกันให้ผูกมิตร
- อาหารอร่อยและราคาถูก – ไม่ว่าจะเป็นอาหารริมทางหรือร้านอาหารหรูๆ ก็กินดีได้ง่ายๆ
- การผจญภัยและการพักผ่อน – ไม่ว่าคุณจะชอบวัด ภูเขา หรือชายหาดเขตร้อน ประเทศไทยก็มีทุกอย่าง
ตอนนี้เราได้พูดถึงเหตุผลแล้ว มาเจาะลึกถึงวิธีการกัน
ขั้นตอนที่ 1: การขอวีซ่าเกษียณ การเกษียณในประเทศไทย คุณจำเป็นต้องมีวีซ่าเกษียณที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วีซ่าประเภท Non-Immigrant O-A (Long Stay) หรือ Non-Immigrant O-X นี่คือข้อสรุปโดยย่อ:
ตัวเลือก 1: วีซ่า Non-Immigrant O-A (สำหรับหนึ่งปี, ต่ออายุได้) - อายุมากกว่า 50 ปี
- มีหลักฐาน 800,000 บาท ในธนาคารไทย, หรือ
- มีเงินบำนาญ/รายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 65,000 บาท
- มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมอย่างน้อย 3 ล้านบาท
- มีใบรับรองประวัติอาชญากรรมและใบตรวจสุขภาพ
ตัวเลือก 2: วีซ่า Non-Immigrant O-X (สำหรับ 10 ปี, ต่ออายุได้ทุก 5 ปี) - มาจากประเทศที่กำหนด (สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ฯลฯ)
- มีเงินอย่างน้อย 3 ล้านบาท ในธนาคารไทย หรือ 1.8 ล้านบาทและหลักฐานรายได้ประจำปีของ 1.2 ล้านบาท
- มีประกันสุขภาพที่ถูกต้อง
ถ้าการจัดการเอกสารฟังดูยุ่งยาก คุณยังสามารถใช้บริการเอเจนซี่วีซ่าเพื่อให้กระบวนการง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2: การเลือกที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ประเทศไทยมีหลากหลายสถานที่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ต่อไปนี้คือที่อยู่ที่นิยมในหมู่ผู้เกษียณ:
- กรุงเทพฯ – หากคุณชื่นชอบชีวิตในเมือง โรงพยาบาลดีๆ และการช้อประดับโลก
- เชียงใหม่ – เป็นที่รู้จักในเรื่องอากาศเย็นสบาย ฉากศิลปะ และค่าครองชีพที่ประหยัด
- หัวหิน – เมืองชายหาดที่สงบสุขพร้อมชุมชนชาวต่างชาติขนาดใหญ่
- พัทยา – ราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมบันเทิงมากมาย
- ภูเก็ต – ชีวิตบนเกาะที่สวยงาม แม้ว่าอาจมีราคาแพงบ้าง
- เกาะสมุย – อีกเกาะที่เป็นสวรรค์พร้อมกับบรรยากาศชิลๆ
ส่วนตัวแล้วฉันแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือนในสถานที่ต่างๆ กันก่อนตัดสินใจลงหลักปักฐาน ประเทศไทยมีความหลากหลายมาก มันคุ้มค่าที่จะสำรวจ!
ขั้นตอนที่ 3: การเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของการเกษียณในประเทศไทยคือการที่เงินของคุณไปได้ไกล นี่คือการประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือน:
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในเชียงใหม่): $300–$600
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในกรุงเทพฯ/ภูเก็ต): $600–$1,500
- ค่าสาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต: $50–$100
- ค่าอาหาร (ทานอาหารนอกบ้านทุกวัน): $300–$600
- ประกันสุขภาพ: $100–$300
- บันเทิงและอื่นๆ: $200–$500
สำหรับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย ผู้เกษียณที่อยู่คนเดียวสามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยใช้$1,500 ต่อเดือน ขณะที่การใช้ชีวิตแบบหรูหราขึ้นหน่อยอาจต้องใช้$3,000+ ต่อเดือน.
ขั้นตอนที่ 4: การดูแลสุขภาพในประเทศไทย หนึ่งในความกังวลใหญ่สำหรับผู้เกษียณคือการดูแลสุขภาพ โชคดีที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเอเชีย พร้อมทั้งแพทย์ที่ฝึกอบรมมาอย่างดีและการรักษาที่คุ้มค่า
- โรงพยาบาลเอกชน – บำรุงราษฎร์, สมิติเวช และโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เป็นโรงพยาบาลชั้นนำ
- โรงพยาบาลรัฐ – ถูกกว่าแต่บ่อยครั้งแออัดด้วยเวลารอที่ยาวนาน
- ประกันสุขภาพ – บริษัทอย่าง Cigna, Aetna, และ Luma ให้ความคุ้มครองสำหรับชาวต่างชาติ
ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้บริการสุขภาพเอกชนเพราะยังคงถูกกว่าที่ตะวันตกมาก
ขั้นตอนที่ 5: การสร้างมิตรภาพและสังคมชีวิต การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ง่าย—ทั้งในหมู่ชาวบ้านและชาวต่างชาติ
- เข้าร่วม กลุ่ม Facebook (เช่น “ชาวต่างชาติในเชียงใหม่” หรือ “ผู้เกษียณในกรุงเทพฯ”)
- เรียน ภาษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
- เยี่ยมชม บาร์และร้านกาแฟที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติ
- ลอง อาสาสมัคร – หลายๆ NGO ชอบผู้เกษียณชาวต่างชาติมาช่วยเหลือ
- ทำ งานอดิเรก เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน โยคะ หรือแม้แต่มวยไทย!
สำคัญคือการเปิดตัวเองออกไป เกษียณไม่ได้หมายถึงการนั่งอยู่บ้านตลอดทั้งวัน!
ขั้นตอนที่ 6: การจัดการธนาคารและการโอนเงิน การเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยนั้นง่าย แต่กฎอาจแตกต่างไปตามสาขา ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย หรือ SCB
สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ใช้บริการอย่าง Wise (ชื่อเดิม TransferWise) หรือ Revolut เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนที่ 7: การเรียนรู้ภาษาไทยพื้นฐาน (มันช่วยได้!) แม้ว่าคนไทยหลายคนจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง การเรียนรู้ภาษาไทยนิดหน่อยก็ช่วยให้ง่ายขึ้น เริ่มต้นด้วยวลีง่ายๆ:
- สวัสดี – สวัสดีครับ/ค่ะ (ครับสำหรับผู้ชาย, ค่ะสำหรับผู้หญิง)
- ขอบคุณ – ขอบคุณครับ/ค่ะ
- ราคาเท่าไหร่? – เท่าไร?
- ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ – ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ (มีประโยชน์มาก!)
การเรียนภาษาไทยหรือใช้แอปอย่าง Ling, Drops, หรือ Pimsleur เป็นวิธีที่สนุกที่จะเรียนรู้
สรุปสุดท้าย: การเกษียณในประเทศไทยเหมาะกับคุณหรือไม่? ประเทศไทยเป็นปลายทางการเกษียณที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ควรพิจารณาดังนี้:
✅ คุณรักอากาศอบอุ่นและไลฟ์สไตล์ชิลๆ ✅ คุณโอเคกับการทำวีซ่ารันหรือเอกสารเป็นครั้งคราว ✅ คุณชอบความสะดวกสมัยใหม่และวัฒนธรรมท้องถิ่น ✅ คุณเตรียมเงินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์และประกัน ✅ คุณเปิดใจเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่
ถ้านั่นฟังดูเหมือนคุณ งั้นลุยเลย! ประเทศไทยอาจจะเป็นที่เกษียณในฝัน ด้วยการวางแผนที่ดีและเปิดใจ คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกในเขตร้อนและอาหารไทยอร่อยๆ ในไม่ช้า
มีคำถามเกี่ยวกับการเกษียณในประเทศไทยไหม? ถามได้เลยฉันยินดีช่วย!
การเกษียณในประเทศไทย คุณจำเป็นต้องมีวีซ่าเกษียณที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วีซ่าประเภท Non-Immigrant O-A (Long Stay) หรือ Non-Immigrant O-X นี่คือข้อสรุปโดยย่อ:
ตัวเลือก 1: วีซ่า Non-Immigrant O-A (สำหรับหนึ่งปี, ต่ออายุได้) - อายุมากกว่า 50 ปี
- มีหลักฐาน 800,000 บาท ในธนาคารไทย, หรือ
- มีเงินบำนาญ/รายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 65,000 บาท
- มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมอย่างน้อย 3 ล้านบาท
- มีใบรับรองประวัติอาชญากรรมและใบตรวจสุขภาพ
ตัวเลือก 2: วีซ่า Non-Immigrant O-X (สำหรับ 10 ปี, ต่ออายุได้ทุก 5 ปี) - มาจากประเทศที่กำหนด (สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ฯลฯ)
- มีเงินอย่างน้อย 3 ล้านบาท ในธนาคารไทย หรือ 1.8 ล้านบาทและหลักฐานรายได้ประจำปีของ 1.2 ล้านบาท
- มีประกันสุขภาพที่ถูกต้อง
- มาจากประเทศที่กำหนด (สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ฯลฯ)
- มีเงินอย่างน้อย 3 ล้านบาท ในธนาคารไทย หรือ 1.8 ล้านบาทและหลักฐานรายได้ประจำปีของ 1.2 ล้านบาท
- มีประกันสุขภาพที่ถูกต้อง
ถ้าการจัดการเอกสารฟังดูยุ่งยาก คุณยังสามารถใช้บริการเอเจนซี่วีซ่าเพื่อให้กระบวนการง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2: การเลือกที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ประเทศไทยมีหลากหลายสถานที่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ต่อไปนี้คือที่อยู่ที่นิยมในหมู่ผู้เกษียณ:
- กรุงเทพฯ – หากคุณชื่นชอบชีวิตในเมือง โรงพยาบาลดีๆ และการช้อประดับโลก
- เชียงใหม่ – เป็นที่รู้จักในเรื่องอากาศเย็นสบาย ฉากศิลปะ และค่าครองชีพที่ประหยัด
- หัวหิน – เมืองชายหาดที่สงบสุขพร้อมชุมชนชาวต่างชาติขนาดใหญ่
- พัทยา – ราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมบันเทิงมากมาย
- ภูเก็ต – ชีวิตบนเกาะที่สวยงาม แม้ว่าอาจมีราคาแพงบ้าง
- เกาะสมุย – อีกเกาะที่เป็นสวรรค์พร้อมกับบรรยากาศชิลๆ
ส่วนตัวแล้วฉันแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือนในสถานที่ต่างๆ กันก่อนตัดสินใจลงหลักปักฐาน ประเทศไทยมีความหลากหลายมาก มันคุ้มค่าที่จะสำรวจ!
ขั้นตอนที่ 3: การเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของการเกษียณในประเทศไทยคือการที่เงินของคุณไปได้ไกล นี่คือการประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือน:
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในเชียงใหม่): $300–$600
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในกรุงเทพฯ/ภูเก็ต): $600–$1,500
- ค่าสาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต: $50–$100
- ค่าอาหาร (ทานอาหารนอกบ้านทุกวัน): $300–$600
- ประกันสุขภาพ: $100–$300
- บันเทิงและอื่นๆ: $200–$500
สำหรับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย ผู้เกษียณที่อยู่คนเดียวสามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยใช้$1,500 ต่อเดือน ขณะที่การใช้ชีวิตแบบหรูหราขึ้นหน่อยอาจต้องใช้$3,000+ ต่อเดือน.
ขั้นตอนที่ 4: การดูแลสุขภาพในประเทศไทย หนึ่งในความกังวลใหญ่สำหรับผู้เกษียณคือการดูแลสุขภาพ โชคดีที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเอเชีย พร้อมทั้งแพทย์ที่ฝึกอบรมมาอย่างดีและการรักษาที่คุ้มค่า
- โรงพยาบาลเอกชน – บำรุงราษฎร์, สมิติเวช และโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เป็นโรงพยาบาลชั้นนำ
- โรงพยาบาลรัฐ – ถูกกว่าแต่บ่อยครั้งแออัดด้วยเวลารอที่ยาวนาน
- ประกันสุขภาพ – บริษัทอย่าง Cigna, Aetna, และ Luma ให้ความคุ้มครองสำหรับชาวต่างชาติ
ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้บริการสุขภาพเอกชนเพราะยังคงถูกกว่าที่ตะวันตกมาก
ขั้นตอนที่ 5: การสร้างมิตรภาพและสังคมชีวิต การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ง่าย—ทั้งในหมู่ชาวบ้านและชาวต่างชาติ
- เข้าร่วม กลุ่ม Facebook (เช่น “ชาวต่างชาติในเชียงใหม่” หรือ “ผู้เกษียณในกรุงเทพฯ”)
- เรียน ภาษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
- เยี่ยมชม บาร์และร้านกาแฟที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติ
- ลอง อาสาสมัคร – หลายๆ NGO ชอบผู้เกษียณชาวต่างชาติมาช่วยเหลือ
- ทำ งานอดิเรก เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน โยคะ หรือแม้แต่มวยไทย!
สำคัญคือการเปิดตัวเองออกไป เกษียณไม่ได้หมายถึงการนั่งอยู่บ้านตลอดทั้งวัน!
ขั้นตอนที่ 6: การจัดการธนาคารและการโอนเงิน การเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยนั้นง่าย แต่กฎอาจแตกต่างไปตามสาขา ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย หรือ SCB
สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ใช้บริการอย่าง Wise (ชื่อเดิม TransferWise) หรือ Revolut เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนที่ 7: การเรียนรู้ภาษาไทยพื้นฐาน (มันช่วยได้!) แม้ว่าคนไทยหลายคนจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง การเรียนรู้ภาษาไทยนิดหน่อยก็ช่วยให้ง่ายขึ้น เริ่มต้นด้วยวลีง่ายๆ:
- สวัสดี – สวัสดีครับ/ค่ะ (ครับสำหรับผู้ชาย, ค่ะสำหรับผู้หญิง)
- ขอบคุณ – ขอบคุณครับ/ค่ะ
- ราคาเท่าไหร่? – เท่าไร?
- ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ – ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ (มีประโยชน์มาก!)
การเรียนภาษาไทยหรือใช้แอปอย่าง Ling, Drops, หรือ Pimsleur เป็นวิธีที่สนุกที่จะเรียนรู้
สรุปสุดท้าย: การเกษียณในประเทศไทยเหมาะกับคุณหรือไม่? ประเทศไทยเป็นปลายทางการเกษียณที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ควรพิจารณาดังนี้:
✅ คุณรักอากาศอบอุ่นและไลฟ์สไตล์ชิลๆ ✅ คุณโอเคกับการทำวีซ่ารันหรือเอกสารเป็นครั้งคราว ✅ คุณชอบความสะดวกสมัยใหม่และวัฒนธรรมท้องถิ่น ✅ คุณเตรียมเงินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์และประกัน ✅ คุณเปิดใจเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่
ถ้านั่นฟังดูเหมือนคุณ งั้นลุยเลย! ประเทศไทยอาจจะเป็นที่เกษียณในฝัน ด้วยการวางแผนที่ดีและเปิดใจ คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกในเขตร้อนและอาหารไทยอร่อยๆ ในไม่ช้า
มีคำถามเกี่ยวกับการเกษียณในประเทศไทยไหม? ถามได้เลยฉันยินดีช่วย!
หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของการเกษียณในประเทศไทยคือการที่เงินของคุณไปได้ไกล นี่คือการประมาณการค่าใช้จ่ายรายเดือน:
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในเชียงใหม่): $300–$600
- ค่าเช่า (คอนโด 1 ห้องนอนในกรุงเทพฯ/ภูเก็ต): $600–$1,500
- ค่าสาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต: $50–$100
- ค่าอาหาร (ทานอาหารนอกบ้านทุกวัน): $300–$600
- ประกันสุขภาพ: $100–$300
- บันเทิงและอื่นๆ: $200–$500
สำหรับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย ผู้เกษียณที่อยู่คนเดียวสามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยใช้$1,500 ต่อเดือน ขณะที่การใช้ชีวิตแบบหรูหราขึ้นหน่อยอาจต้องใช้$3,000+ ต่อเดือน.
ขั้นตอนที่ 4: การดูแลสุขภาพในประเทศไทย หนึ่งในความกังวลใหญ่สำหรับผู้เกษียณคือการดูแลสุขภาพ โชคดีที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเอเชีย พร้อมทั้งแพทย์ที่ฝึกอบรมมาอย่างดีและการรักษาที่คุ้มค่า
- โรงพยาบาลเอกชน – บำรุงราษฎร์, สมิติเวช และโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เป็นโรงพยาบาลชั้นนำ
- โรงพยาบาลรัฐ – ถูกกว่าแต่บ่อยครั้งแออัดด้วยเวลารอที่ยาวนาน
- ประกันสุขภาพ – บริษัทอย่าง Cigna, Aetna, และ Luma ให้ความคุ้มครองสำหรับชาวต่างชาติ
ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้บริการสุขภาพเอกชนเพราะยังคงถูกกว่าที่ตะวันตกมาก
ขั้นตอนที่ 5: การสร้างมิตรภาพและสังคมชีวิต การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ง่าย—ทั้งในหมู่ชาวบ้านและชาวต่างชาติ
- เข้าร่วม กลุ่ม Facebook (เช่น “ชาวต่างชาติในเชียงใหม่” หรือ “ผู้เกษียณในกรุงเทพฯ”)
- เรียน ภาษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
- เยี่ยมชม บาร์และร้านกาแฟที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติ
- ลอง อาสาสมัคร – หลายๆ NGO ชอบผู้เกษียณชาวต่างชาติมาช่วยเหลือ
- ทำ งานอดิเรก เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน โยคะ หรือแม้แต่มวยไทย!
สำคัญคือการเปิดตัวเองออกไป เกษียณไม่ได้หมายถึงการนั่งอยู่บ้านตลอดทั้งวัน!
ขั้นตอนที่ 6: การจัดการธนาคารและการโอนเงิน การเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยนั้นง่าย แต่กฎอาจแตกต่างไปตามสาขา ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย หรือ SCB
สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ใช้บริการอย่าง Wise (ชื่อเดิม TransferWise) หรือ Revolut เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนที่ 7: การเรียนรู้ภาษาไทยพื้นฐาน (มันช่วยได้!) แม้ว่าคนไทยหลายคนจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง การเรียนรู้ภาษาไทยนิดหน่อยก็ช่วยให้ง่ายขึ้น เริ่มต้นด้วยวลีง่ายๆ:
- สวัสดี – สวัสดีครับ/ค่ะ (ครับสำหรับผู้ชาย, ค่ะสำหรับผู้หญิง)
- ขอบคุณ – ขอบคุณครับ/ค่ะ
- ราคาเท่าไหร่? – เท่าไร?
- ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ – ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ (มีประโยชน์มาก!)
การเรียนภาษาไทยหรือใช้แอปอย่าง Ling, Drops, หรือ Pimsleur เป็นวิธีที่สนุกที่จะเรียนรู้
สรุปสุดท้าย: การเกษียณในประเทศไทยเหมาะกับคุณหรือไม่? ประเทศไทยเป็นปลายทางการเกษียณที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ควรพิจารณาดังนี้:
✅ คุณรักอากาศอบอุ่นและไลฟ์สไตล์ชิลๆ ✅ คุณโอเคกับการทำวีซ่ารันหรือเอกสารเป็นครั้งคราว ✅ คุณชอบความสะดวกสมัยใหม่และวัฒนธรรมท้องถิ่น ✅ คุณเตรียมเงินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์และประกัน ✅ คุณเปิดใจเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่
ถ้านั่นฟังดูเหมือนคุณ งั้นลุยเลย! ประเทศไทยอาจจะเป็นที่เกษียณในฝัน ด้วยการวางแผนที่ดีและเปิดใจ คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกในเขตร้อนและอาหารไทยอร่อยๆ ในไม่ช้า
มีคำถามเกี่ยวกับการเกษียณในประเทศไทยไหม? ถามได้เลยฉันยินดีช่วย!
การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ง่าย—ทั้งในหมู่ชาวบ้านและชาวต่างชาติ
- เข้าร่วม กลุ่ม Facebook (เช่น “ชาวต่างชาติในเชียงใหม่” หรือ “ผู้เกษียณในกรุงเทพฯ”)
- เรียน ภาษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
- เยี่ยมชม บาร์และร้านกาแฟที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติ
- ลอง อาสาสมัคร – หลายๆ NGO ชอบผู้เกษียณชาวต่างชาติมาช่วยเหลือ
- ทำ งานอดิเรก เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน โยคะ หรือแม้แต่มวยไทย!
สำคัญคือการเปิดตัวเองออกไป เกษียณไม่ได้หมายถึงการนั่งอยู่บ้านตลอดทั้งวัน!
ขั้นตอนที่ 6: การจัดการธนาคารและการโอนเงิน การเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยนั้นง่าย แต่กฎอาจแตกต่างไปตามสาขา ผู้เกษียณส่วนใหญ่เลือกใช้ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย หรือ SCB
สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ใช้บริการอย่าง Wise (ชื่อเดิม TransferWise) หรือ Revolut เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
ขั้นตอนที่ 7: การเรียนรู้ภาษาไทยพื้นฐาน (มันช่วยได้!) แม้ว่าคนไทยหลายคนจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง การเรียนรู้ภาษาไทยนิดหน่อยก็ช่วยให้ง่ายขึ้น เริ่มต้นด้วยวลีง่ายๆ:
- สวัสดี – สวัสดีครับ/ค่ะ (ครับสำหรับผู้ชาย, ค่ะสำหรับผู้หญิง)
- ขอบคุณ – ขอบคุณครับ/ค่ะ
- ราคาเท่าไหร่? – เท่าไร?
- ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ – ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ (มีประโยชน์มาก!)
การเรียนภาษาไทยหรือใช้แอปอย่าง Ling, Drops, หรือ Pimsleur เป็นวิธีที่สนุกที่จะเรียนรู้
สรุปสุดท้าย: การเกษียณในประเทศไทยเหมาะกับคุณหรือไม่? ประเทศไทยเป็นปลายทางการเกษียณที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ควรพิจารณาดังนี้:
✅ คุณรักอากาศอบอุ่นและไลฟ์สไตล์ชิลๆ ✅ คุณโอเคกับการทำวีซ่ารันหรือเอกสารเป็นครั้งคราว ✅ คุณชอบความสะดวกสมัยใหม่และวัฒนธรรมท้องถิ่น ✅ คุณเตรียมเงินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์และประกัน ✅ คุณเปิดใจเรียนรู้วิถีชีวิตใหม่
ถ้านั่นฟังดูเหมือนคุณ งั้นลุยเลย! ประเทศไทยอาจจะเป็นที่เกษียณในฝัน ด้วยการวางแผนที่ดีและเปิดใจ คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกในเขตร้อนและอาหารไทยอร่อยๆ ในไม่ช้า
มีคำถามเกี่ยวกับการเกษียณในประเทศไทยไหม? ถามได้เลยฉันยินดีช่วย!
แม้ว่าคนไทยหลายคนจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง การเรียนรู้ภาษาไทยนิดหน่อยก็ช่วยให้ง่ายขึ้น เริ่มต้นด้วยวลีง่ายๆ:
- สวัสดี – สวัสดีครับ/ค่ะ (ครับสำหรับผู้ชาย, ค่ะสำหรับผู้หญิง)
- ขอบคุณ – ขอบคุณครับ/ค่ะ
- ราคาเท่าไหร่? – เท่าไร?
- ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ – ไม่เผ็ดนะครับ/ค่ะ (มีประโยชน์มาก!)
การเรียนภาษาไทยหรือใช้แอปอย่าง Ling, Drops, หรือ Pimsleur เป็นวิธีที่สนุกที่จะเรียนรู้
ใส่ความเห็น